ความไม่เท่าเทียมในเรื่องเพศ ถือเป็นอำนาจกดทับผู้หญิงมาเป็นเวลาช้านาน ความไม่เท่าเทียมทางสังคมส่งผลให้เพศหญิงไม่สามารถแสดงออกในสิ่งที่ต้องการได้อย่างชัดเจน
เพศนิยม (อังกฤษ: sexism) หรือ การกีดกันทางเพศ หมายถึงการแบ่งแยกทางเพศและเลือกที่รักมักที่ชังต่อเพศใดเพศหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่จะมีผลกระทบต่อผู้หญิงและเด็กหญิง และถูกเชื่อมโยงกับการเหมารวมและบทบาททางเพศ และอาจรวมถึงความเชื่อที่ว่าเพศหนึ่งมีความเหนือกว่าอีกเพศ สิ่งนี้เองเป็นที่มาของการใช้อำนาจบทบาทในสังคมเพื่อจำกัดความสามารถของอีกฝ่ายไม่ให้แสดงออกตามที่ต้องการ
ในแง่มุมของการเหยียดเพศเองนั้นก็ยังแบ่งแยกเป็นย่อยเป็น 2 ประเภทโดยมีเรื่องของการเหยียดเพศแบบก้าวร้าวรุนแรง (Hostile sexism) คือการวิจารณ์แบบตรงไปตรงมา การลดทอนคุณค่าของผู้หญิงในวงการกีฬา ผ่านคำนิยามที่ว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ด้อยกว่า ไม่สามารถทำกำไรได้นักในฐานะนักกีฬา ควรเลือกลงทุนกับนักกีฬาผู้ชายดีกว่า อีกประเภทของการเหยียดเพศคือการเหยียดเพศที่เกิดขึ้นด้วยความอ่อนโยนและให้เกียรติ (Benevolent Sexism) ตัวอย่างในวงการกีฬาก็จะเป็นไปในทำนองว่า ผู้หญิงเป็นเพศอ่อนแอ และน่าทะนุถนอม ไม่ควรจะต้องมีแผลเป็นตามตัว กีฬาบางประเภทจึงควรเป็นเรื่องของผู้ชายมากกว่า
ซึ่งถึงแม้จะเป็น “การเหยียดเพศ” หรือเป็นการมองว่าเพศชายและเพศหญิงไม่เท่าเทียมกันก็จริง แต่ก็มีความแตกต่างกันในเชิงรายละเอียดที่จะขอยกตัวอย่างจากบทความที่ผู้เขียนทำการค้นคว้ามาดังนี้
ย้อนไปเมื่อครั้งสมัยยุควิคตอเรีย ที่เน้นความพิถีพิถันในเพศหญิง ที่พอจะเป็นที่น่าจดจำคือกระโปรงสุ่มไก่ของผู้หญิง เพื่อกำหนดระยะห่างระหว่างชายหญิงรวมถึงผู้หญิงจะต้องระมัดระวังพฤติกรรมต่อสาธารณะ จะต้องอยู่ภายในบ้านไม่สมควรเดินตามท้องถนนนัก ถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่านี่คือตัวอย่างการเหยียดเพศแบบประเภทก้าวร้าวรุนแรง Hostile sexismเพราะเชื่อว่าผู้หญิงไม่มีทางประสบความสำเร็จนอกบ้านได้
สมัยนั้น ผู้หญิงไม่อนุญาตให้มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง ไม่ได้เรียนหนังสือจนกระทั่งปีค.ศ 1840
ครั้งเมื่อผู้หญิงได้เรียนหนังสือ ก็คว้าปริญญาเอกในทันที ซึ่งผู้นั้นก็คือฟลอเลนซ์ เคลลี่ จึงถือเป็นการมีบทบาทของผู้หญิงในแวดวงการศึกษาในยุคแรกๆ
หลังจากนั้นผู้หญิงเริ่มจัดกิจกรรมที่ผู้หญิงดูแลปัญหาของผู้หญิงด้วยกัน การเดินขบวนต่อต้าน การดูแลเรื่องสวัสดิการรายได้ขั้นต่ำ ชั่วโมงการทำงาน และบทบาททางสาธารณสุขด้วยเหมือนกัน การได้ออกไปทำงานเทียบเท่าผู้ชาย
ต่อมาปีค.ศ1880 กล้องโกดักรุ่นแรกถูกผลิตขึ้น ปีค.ศ 1900 ก็มีตากล้องสารคดีหญิงคนแรกคือ เจสสิก้า ทาบ็อค
การมีบทบาทในแวดวงกีฬาของผู้หญิงในเริ่มขึ้นเมื่อช่วงต้นปี ค.ศ1900 การใส่ชุดออกกำลังกายครั้งแรกของผู้หญิง ต้องปกปิดหมดทุกส่วน และใส่ได้เฉพาะตอนเรียนวิชาพละเท่านั้น ใส่เดินข้างนอกไม่ได้ ชุดว่ายน้ำที่ครอบคลุมหมดทุกส่วน ไม่น่าเชื่อว่าสามารถพัฒนากลายมาเป็นบิกินี่ได้ในปัจจุบัน
และในปีเดียวกันคือปีค.ศ 1900 ผู้หญิงได้มีโอกาสเข้าร่วมโอลิมปิกครั้งแรก ที่จัดขึ้นที่ปารีส มีนักกีฬาเข้าร่วมทั้งสิ้น 997 คน เป็นชาย975 คนและหญิง22คน
ปีค.ศ 1920 นักเทนนิสหญิง ได้แชมป์โอลิมปิก
จะเห็นได้ว่าผู้หญิงในช่วงต้นปีค.ศ 1900 เริ่มมีบทบาทในแวดวงกีฬามากขึ้นตามลำดับ
ในสังคมไทยเองก็มีตัวอย่างนักกีฬาหญิงที่สร้างความฮือฮาแกวงการกีฬาไม่แพ้กัน อย่างเช่น พี่แว่น สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล อดีตนักบาสเกตบอลหญิงทีมชาติไทยที่เป็นที่รู้จักในฐานะนักบาสเกตบอลหญิงที่มีความสามารถ ส่งผลให้เมื่อช่วงยี่สิบปีก่อนกีฬาบาสเกตบอลเป็นที่นิยมอย่างมากในเมืองไทยเพราะเหตุการณ์ทีมไทยชนะแชมป์ซีเกมส์ที่ญี่ปุ่น
ถัดมาก็คือ น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ เป็นนักกีฬาแบดมินตันหญิงชาวไทย อดีตนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือหนึ่งของโลกเมื่อปี พ.ศ. 2559 และเป็นคนไทยคนแรกที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นในปี 2556 เธอได้คว้าแชมป์โลกและสร้างสถิติเป็นแชมป์โลกแบดมินตันอายุน้อยที่สุดอีกด้วย
ฝั่งตะวันตกก็คงจะเป็นโคโค่ เกาฟฟ์ สาวน้อยนักหวดวัย 15 แจ้งเกิดในวงการเทนนิสหญิงเพียงชั่วข้ามคืนหลังเธอเอาชนะ วีนัส วิลเลี่ยมส์ แชมป์วิมเบิลดัน 5 สมัยที่แก่กว่าเธอ 24 ปี สองเซตรวด บทสัมภาษณ์ของพ่อแม่ของเธอบอกว่า เขามองครอบครัวเซรีน่าและวีนัส วิลเลี่ยมเป็นตัวอย่างและพร้อมสนับสนุนลูกสาวให้เล่นกีฬาอะไรก็ได้ที่ชอบ ลงเอยที่เทนนิสเป็นกีฬาที่โคโค่ชอบมากที่สุด
จะเห็นได้ว่าจากประวัติศาสตร์ถึงปัจจุบัน ผู้หญิงได้ทำการพิสูจน์และต่อสู้เพื่อก้าวข้ามผ่านความต่างทางเพศ
ไม่ว่าจะเป็นความเห็นที่มองว่ากีฬาที่ผู้หญิงเล่นจะดูน่าเบื่อและคนดูพร้อมกดเปลี่ยนช่องมากกว่ากีฬาที่ผู้ชายเล่น ที่มักจะมีเหตุการณ์เพิ่มความสนุกกสนานและรุนแรงแบบเลือดตกยางออกเกิดขึ้นเสมอ
การถูกลดบทบาททางเพศในกีฬาถูกทำให้พบเห็นอย่างต่อเนื่องเช่นว่า เพศหญิงไม่นานจะต้องเลิกเล่นกีฬาเพราะต้องแต่งงานมีครอบครัว จำเป็นต้องเลี้ยงลูกจึงไม่สามารถเล่นกีฬาต่อไปได้ จึงไม่ควรค่าแก่การสนับสนุน ความคิดดังกล่าวส่งผลให้ผู้สนับสนุนทางกีฬาเลือกที่จะลงทุนกับนักกีฬาผู้ชายเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามพบว่าในปัจจุบันความเชื่อดังกล่าวถูกทำให้ลดลงบ้างแล้ว รวมถึงสื่อโทรทัศน์และสื่อดิจิตอลออนไลน์ยังให้ความสนับสนุนศักยภาพของเพศหญิงในการก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยและแสดงความต้องการของตัวเองผ่านแคมเปญ #likeagirl เมื่อปี ค.ศ2016 อีกด้วย
ตัวอย่างวิดิโอแรกคือ : like a girl เหมือนผู้หญิง
นิยามคำว่า เหมือนผู้หญิง ถูกลดทอนคุณค่าลงผ่านการกระทำในแง่ของอาการอ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง ไร้เรี่ยวแรง ซึ่งเป็นความหมายในแง่ลบทั้งหมด
Like a girl ในตัวอย่างโฆษณานี้คือการให้ตัวแทนลองทำท่าทางที่แสดงถึงตัวตนของผู้หญิงผ่านการวิ่ง ตัวแทนหลายคนแสดงท่าทางเหยาะแหยง ไม่แข็งแรงและทำมืออ่อนแรง รวมทั้งกรณีที่ผู้สัมภาษณ์ถามเด็กชายไปว่า นี่กำลังล้อเลียนพี่สาวตัวเองอยู่รึเปล่า เด็กชายตอบกลับไปว่า เปล่า แต่กำลังล้อเลียนผู้หญิงอยู่ ไม่ได้ล้อเลียนพี่สาวตัวเอง นี่อาจเป็นตัวอย่างของการเหยียดเพศอีกประเภทนึงก็คือ Benevolent Sexism การให้เกียรติพี่สาวตัวเองแต่เผอเรอไม่ตั้งใจที่จะไม่ให้เกียรติผู้หญิงคนอื่นๆ ในวิดิโอนี้ทำให้เห็นว่าการถูกเลือกปฎิบัติในฐานะเพศหญิงส่งผลอย่างไรต่อคนทั่วไป แต่ในท้ายที่สุดก็พิสูจน์ให้เห็นว่า นิยามการเป็นผู้หญิงจะถูกตั้งขึ้นด้วยทัศนคติของเราล้วนๆ เราจึงควรรู้สึกดีกับตัวเองก่อนและความเชื่อว่าเรามีความสามารถก็จะตามมา
ดังคำกล่าวของเด็กสาวตัวเล็กที่บอกไว้ว่า การวิ่งแบบผู้หญิง คือการวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
ตัวอย่างที่2 : unstoppable
เคยมีคนจำกัดความสามารถของคุณเพราะเรื่องเพศหรือไม่ ?
จากผลสำรวจพบว่า 72%ของผู้หญิงรู้สึกว่าตัวเองถูกจำกัดความสามารถ และส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง ทำให้ล้มเลิกกิจกรรมกีฬาหลายๆชนิดกลางคัน เพียงเพราะคิดว่าไม่มีใครสนใจในตัวตนของพวกเขา ทางรายการจึงทำแบบทดสอบให้เขียนสิ่งที่คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับผู้หญิงลงบนกล่องและให้ผู้ถูกสัมภาษณ์จัดการกับกล่องเหล่านั้น และสร้างความเข้าใจใหม่กับนิยามคำว่า unstoppable คืออย่าหยุด ทำไปเรื่อยๆ แล้วสิ่งดีๆก็จะเกิดขึ้นตามมา
กีฬาเป็นเรื่องของผู้ชาย?
กีฬาคือการแสดงออกทางพละกำลัง ก้าวร้าวรุนแรง ซึ่งไม่เหมาะกับธรรมชาติของผู้หญิง
หรือแม้กระทั่งการที่ผู้ชมส่วนใหญ่ชอบกีฬาที่ผู้ชายเล่นมากกว่าผู้หญิงเล่น สิ่งเหล่านี้เองที่ลดทอนศักยภาพของผู้หญิงที่จะพิสูจน์ต่อสังคมว่าเราเองก็ทำได้ไม่ต่างจากเพศชาย และผู้หญิงสามารถเป็นผู้นำของทีมกีฬาได้ วิดิโอนี้ต้องการจะสนับสนุนความสามารถของผู้หญิงผ่านผู้หญิงด้วยกันที่เลือกที่จะไม่หยุดทำสิ่งที่ตัวเองรักเพียงเพราะสังคมไม่สนับสนุน ความกล้าหาญและเข้มแข็งของเด็กสาวรุ่นใหม่นี่เองที่จะทำให้วงการกีฬาผลิตนักกีฬาผู้หญิงเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
เนื่องจากตัวอย่างโฆษณาข้างต้นเป็นผลงานโฆษณาผ้าอนามัยนี่ห้อหนึ่ง ผู้เขียนจึงขอย้อนกลับไปนิดนึงถึงบทบาทผู้หญิงในช่วงก่อนสงครามโลก ขณะที่ผู้ชายเสนอตัวออกไปรบ ผู้หญิงอย่างคิมเบอรี่-คล้าก ทำการผลิต Cellucotton ซึ่ง Cellucotton นี้ก็คือผ้าที่สามารถซึมซับได้ดีกว่าผ้าทั่วๆ ไป และใช้เป็นผ้าพันแผลให้กับทหารในสงคราม
- ปีค.ศ1937 ถ้วยอนามัย ก่อกำเนิด
- ปี ค.ศ 1941 สงครามโลกครั้งที่2 พัฒนาต่อเนื่องเป็น Kotex และนั่นก็เป็นจุดกำเนิดของผ้าอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งพัฒนาต่อมาเป็นแบบมีปีกวางขายในปัจจุบัน
ในหน้าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาล้วนมีผู้หญิงเติมแต่งเข้าไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือในครั้งสงคราม การเป็นตัวแทนนักกีฬา การขับเคลื่อนสังคมทุกยุคทุกสมัย เราก้าวข้ามการข่มเหงทางเพศและพยายามแก้ไขปัญหานี้ผ่านการจัดการกับความไม่เท่าเทียมกันในสังคมมาตลอด จนทำให้ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้นในสังคม
ทั้งนี้สิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อคือไม่มีกีฬาหรืออาชีพใดใดที่เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงโดยเฉพาะ ผู้ชายสามารถเล่นบัลเลย์ ผู้หญิงสามารถเป็นนักกีฬารักบี้ได้ ผู้หญิงสามารถเป็นนักดับเพลิงได้เทียบเท่ากับผู้ชายเป็นพยาบาล เราสามารถเป็นได้ทุกอย่างที่เราต้องการโดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องเพศเป็นตัวจำกัดความสามารถของเรา
ผู้เขียน อัจฉราพรรณ พาลี
อ้างอิง :
- คอร์สเรียนออนไลน์ของฮาร์วาร์ดในหัวข้อผู้หญิงกับการสร้างประวัติศาสตร์ Women Making History : Ten Objects, Many Stories
- นิยามเพศนิยม : https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A8
- ประวัติ เมย์ รัชนก : https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%81_%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C
- นิยาม Sexist :https://www.google.com/amp/s/www.mendetails.com/women/2-sexism-%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2587/amp/
- What is sexist : https://finallyfeminism101.wordpress.com/2007/10/19/sexism-definition/