เซ็กซ์ตอนเมา?

ความสัมพันธ์คลุมเครือแบบนี้นี่มันอะไร??? มาดูกันดีกว่าว่าเมาแล้วเป็นอะไรได้บ้าง


สิ่งมึนเมา และยาสามารถส่งผลต่อความสามารถในการตัดสินใจได้ รวมถึงการตัดสินใจอยากมีความสัมพันธ์ทางเพศกับใครสักคน ซึ่งหมายถึง หากมีใครสักคนที่เมา การมีความสัมพันธ์ทางเพศเมื่อเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เท่ากับการข่มขืน เพราะเขาผู้นั้นไม่สามารถแจ้งความจำนงของตัวเองได้

สติรับรู้สำคัญที่สุด

กุญแจสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่พึงพอใจของทุกฝ่าย คือการที่ทุกฝ่ายรับรู้ และมีความกระตือรือร้นซึ่งกันและกัน แต่ถ้าเราไม่แน่ใจ หรือรู้สึกไม่ดี อย่าฝืน อย่ากดดันผู้อื่น จงรอให้ถึงเวลาที่ใช่ มันก็จะเกิดขึ้นเอง ^^

ถ้าเมาไม่มีสติ ?

หากคนคนนั้นไม่มีสติ หรือ การตัดสินใจผิดแปลกไปเพราะฤทธิ์ของสารมึนเมาหรือสารเสพติด ก็ถือว่า ไม่มีความสามารถที่จะให้คำยินยอม = ไม่มีการยินยอมเกิดขึ้น

หากทั้งสองคนเมาล่ะ ?

หากทั้งสองเมา และมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่มีใครรู้สึกว่าถูกละเมิดก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิด
ความผิดเกิดขึ้นเมื่อมีใครสักคนรู้สึกว่าถูกละเมิดหรือถูกเอาเปรียบ

การให้คำยินยอมอย่างชัดเจน

การยินยอม : คือ คำ หรือการกระทำที่แสดงถึงความรู้ ความกระตือรือร้น และการยินยอมอย่างสมัครใจที่จะมีเพศสัมพันธ์กันอย่างชัดเจน หากไม่มีการยินยอมที่ชัดเจน  จะไม่สามารถสรุปเอาเองได้

ไม่ได้พูดว่า “ไม่” ไม่ได้หมายความว่า มันคือ “ใช่”

เมื่อถูกขู่เข็ญ กดดัน ขมขู่ บีบบังคับ หรือไม่มีสติ หลายๆคนอาจไม่กล้าพูดออกมาชัดๆว่า “ไม่”

เงียบไม่ได้แปลว่า “ใช่”

จริงแล้วๆ ความเงียบอาจบอกถึงการไม่ยินยอม ยกตัวอย่างเช่น การไม่ตอบสนองในเชิงบวกกับคำถามที่เกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศ โดยตั้งคำว่า “ไม่” เป็นกำแพงต่อกิจกรรมนั้นๆ และมันไม่ใช่การเชิญชวนที่จะทำให้พยายามต่อ

เงียบแปลว่า “ไม่” ไม่ควรพยายามทำให้แปลว่า “ใช่”

การยินยอมจำเป็นสำหรับความสัมพันธ์ทางเพศทุกรูปแบบ

ตัวการสำคัญในการกระทำผิดของการข่มขืน คือ ขาดการยินยอม, ล่อลวงด้วยกำลัง, ไม่มีประสงค์อยากมีเพศสัมพันธ์ หรือบุคคลไม่มีสติไม่มีความสามารถที่จะให้ความยินยอมได้

การปฏิเสธมีหลายแบบ

อาจมีการใช้คำต่างๆ เช่น ไม่,เรามากอดกันแทนดีกว่า หรืออาจจะอ้างเพื่อให้หยุดการกระทำนั้นๆ เช่น ฉันกำลังคบกับคนนึงอยู่, ฉันอยากจะเข้านอนแล้ว หรือมีการกระทำที่จะแสดงถึงการไม่ยินยอม เช่น เมินหน้าหนีขยับมือหนี หรือหยุดให้ความสนใจในกิจกรรมนั้นๆ

เมื่อความคาดหวังทางเพศต่างกัน


แต่ละคนมีประสบการณ์ และความคาดหวังหลากหลาย สำหรับบางคนกิจกรรมทางเพศถือเป็นเรื่องปกติที่กระทำมาเป็นปีๆ สำหรับบางคนก็มองว่า คือสิ่งที่ควรให้เวลากับมันในการเฝ้ารอ

ถ้าหากบุคคลใดบุคลลหนึ่งในนี้ไป “มีอะไร” กับบุคคลอีกจำพวก สิ่งเหล่านี้สามารถ ถูกเข้าใจผิดได้

การสื่อสารถือเป็นกุญแจสำคัญในการเรียนรู้ว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการที่จะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ มันไม่เพียงพอที่เราจะยึดถือจากสถานการณ์

หากมันคลุมเครือล่ะ?

หากคุณไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรกับคุณ คุณควรถาม! 

การยินยอมต่อกิจกรรมหนึ่ง ไม่ได้หมายถึงการยินยอมต่อกิจกรรมทั้งหมด

  • การยินยอมให้ใครสักคนเข้าห้อง ไม่ได้หมายถึงการยินยอมที่จะมีกิจกรรมทางเพศ
  • การยินยอมให้จูบ ไม่ได้หมายถึงการยินยอมที่จะมีกิจกรรมทางเพศ
  • การยินยอมให้ลูบไล้ ไม่ได้หมายถึงการยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์
  • การยินยอมที่จะให้มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ไม่ได้หมายถึงการยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ทางรูทวารหนัก
  • สิ่งเหล่านี้แสดงให้ถึงว่า การสื่อสาร สำคัญเพียงไหน

 

“ถาม” หากคุณ และอีกบุคคลหนึ่งเห็นพ้องต้องกันหรือไม่ ดีกว่าตีความเอาเองจากสถานการณ์นั้นๆ กิจกรรมทางเพศแต่ละอย่างนั้นแตกต่างกัน และต้องการคำยินยอมทั้วหมด

สรุป : มึนเมา ไม่เท่ากับยอม

“การมีเพศสัมพันธ์กับอีกฝั่งที่ดื่มมาอย่างหนักเป็นความเสี่ยง” 
เพราะเมื่อบุคคลหนึ่งเป็นผู้เผชิญสถานการณ์ทางเพศ และมีอาการมึนเมาอย่างมาก เธอ หรือเขาอาจจะไม่สามารถให้คำยินยอมต่อกิจกรรมทางเพศได้… ดังนั้นถ้าเราไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะโอเคจริงๆ อย่าเสี่ยงเลยนะ

 

สุดท้าย : การละเมิดทางเพศจะน้อยลงถ้าเราช่วยกัน

  1. มีเซ็กซ์แบบแฟร์ๆ ดีกว่ามีเซ็กซ์แบบงงๆ
  2. เข้าใจว่าการมีเซ็กซ์กับคนเมา เป็นความเสี่ยง เขาอาจจะไม่ได้อยากมีเซ็กซ์กับเรา
  3. ไม่คิดไปเองว่าเพื่อนเราอยากเอากับคนอื่น เพราะเมื่อเขามีสติ เขาอาจไม่ได้คิดแบบนั้น
  4. แม้แต่กับคนที่เพื่อนเราคุยหรือชอบ ก็ไม่ได้แปลว่าเขาหรือเธออยากเอากันเสมอไป
  5. การลวนลามไม่ตลก ถ้ามีการลวนลามแบบตลกๆเกิดขึ้น พยายามเอาเพื่อนเราออกมา
  6. ถ้าอยู่ในงานปาร์ตี้ที่เป็นสาธารณะ (ของวิทยาลัย,ของที่ทำงาน,ของชมรม) พยายามดูแลเพื่อนๆอย่างใกล้ชิด ทั้งดูแลไม่ให้เพื่อนเราละเมิดคนอื่น และดูแลไม่ให้ถูกคนอื่นละเมิด
  7. ความยินยอม เกิดจากการตกลงกันเมื่อมีสติตัดสินใจโดยปราศจากความกดดันเท่านั้น